วันพฤหัสบดีที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เครื่องพิมพ์

ปัญหา : เครื่องพิมพ์ไม่ทำงาน
สาเหตุ : ไม่ได้เสียบสายไฟของเครื่องพิมพ์ หรือไม่ได้เสียบสายเคเบิลของเครื่องพิมพ์
การแก้ปัญหา : ตรวจสอบปลายทั้งสองด้านของเครื่องพิมพ์ และสายไฟของเครื่องพิมพ์ว่ามีการเชื่อมต่ออย่างเหมาะสมหรือไม่ อย่างถูกต้องและแน่นหนา
ปัญหา : เครื่องพิมพ์ไม่พิมพ์
สาเหตุ : ไม่ได้เปิดเครื่องพิมพ์
การแก้ปัญหา : เปิดเครื่องพิมพ์
ปัญหา : เครื่องพิมพ์ไม่พิมพ์
สาเหตุ : เครื่องพิมพ์ไม่ได้อยู่ในโหมด ออนไลน์
การแก้ปัญหา : ตั้งค่าเครื่องพิมพ์ให้อยู่ในโหมดออนไลน์ เครื่องพิมพ์บางเครื่องมีปุ่มหรือ ตัวควบคุมอยู่บนแผงด้านหน้าสำหรับเปลี่ยนไปมาระหว่างโหมดออนไลน์และโหมดออฟไลน์ ถ้าเครื่องพิมพ์มีปุ่มหรือสวิตช์ ออนไลน์/ออฟไลน์ ให้เลือก ออนไลน์
ปัญหา : เครื่องพิมพ์พิมพ์ข้อมูลออกมาเป็นขยะ
สาเหตุ : ไม่ได้ติดตั้งหรือเลือกไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์ที่ถูกต้อง
การแก้ปัญหา : ตรวจดูให้แน่ใจว่ามีการติดตั้งและเลือกไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์ที่ถูกต้อง ไดรเวอร์ที่ถูกต้องของเครื่องพิมพ์มักจะระบุโดยชื่อของเครื่องพิมพ์

ปัญหา : เครื่องพิมพ์พิมพ์ข้อมูลออกมาเป็นขยะ
สาเหตุ : สายไฟของเครื่องพิมพ์ไม่ได้เชื่อมต่ออย่างเหมาะสม
การแก้ปัญหา :ให้อ่านเอกสารที่มาพร้อมกับเครื่องพิมพ์ แล้วเชื่อมต่อสายไฟใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เครื่องพิมพ์
ที่มา  https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/problem/problem.html

ฮาร์ดดิสก์

ปัญหา : ข้อความแสดงการผิดพลาดเกี่ยวกับดิสก์ที่ไม่สามารถบูตได้
สาเหตุ : คอมพิวเตอร์พยายามเริ่มระบบจากดิสเก็ตต์ที่ไม่มีซอฟต์แวร์ สำหรับเริ่มระบบ
การแก้ปัญหา : นำแผ่นดิสเก็ตต์ออกจากไดรฟ์เมื่อไฟแสดงสถานะบนไดรฟ์ดับ แลว้ทำต่อๆ ไป โดยการกดคีย์ใด ๆ
บนแป้นพิมพ์ปัญหา : การทำงานของฮาร์ดไดรฟ์ช้าลง
สาเหตุ : ไฟล์ข้อมูลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ อาจอยู่กระจัดกระจาย
การแก้ปัญหา : ตรวจสอบส่วนของข้อมูลที่หายไปโดยการรันโปรแกรม Disk Defragmenter เพื่อที่จะรันโปรแกรม Disk Defragmenter จากเดสก์ทอของวินโดวส์ ให้ คลิที่ปุ่ม Start แล้วชี้ไปที่ Programs จากนั้นชี้ไปที่ Accessories และชี้ไปที่ System Tools ท้ายสุดให้ลิที่ Disk Defragmenter
ปัญหา : ไฟแสดงการทำงานของฮาร์ดไดรฟ์สว่างแต่ไม่กระพริบ
สาเหตุ : ไฟล์ข้อมูลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ของคุณ อาจจะเสียหาย
การแก้ปัญหา : ตรวจสอบส่วนของข้อมูลที่หายไปโดยการรันโปรแกรม Disk Defragmenter และเพื่อที่จะรันโปรแกรม Disk Defragmenter6 จากเดสก์ทอของวินโดวส์ ให้ลิที่ปุ่ม Start แล้วชี้ไปที่ Programs จากนั้นชี้ไปที่ Accessories และชี้ไปที่ System Tools ท้ายสุดให้ลิที่ Disk Defragmenter


harddisk

ที่มา    https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/problem/problem.html

ด่วน! รีวิว Huawei P10 อ่านก่อนซื้อ !

  จากความสำเร็จของ Huawei P9 ที่มาพร้อมกล้องหลังเลนส์คู่จาก Leica ทำให้แบรนด์ Huawei กลายเป็นที่จดจำและเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้น 
มาในปี 2017 Huawei ต่อยอดความเป็นสมาร์ทโฟนกล้องหลังเลนส์คู่จาก Lecia อีกครั้งด้วย “Huawei P10” เป็นการอัพเกรดประสิทธิภาพการถ่ายภาพ
ด้วยเทคโนโลยี Leica 2.0 แต่เท่านั้นยังไม่พอ เพราะคราวนี้ Leica ยังถูกนำมาใช้กับกล้องหน้าเป็นครั้งแรกของโลกอีกด้วย วันนี้ รีวิว Huawei P10 พร้อม
แล้วที่จะให้ทุกคนได้รู้ถึงความใหม่จากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จะเป็นอย่างไรติดตามได้เลยครับ  สีที่เราได้มารีวิวเป็นสีดำ (Graphite Black) วัสดุที่ใช้ยังเป็นโลหะครอบคลุมตั้งแต่ด้านหลังจนมาขอบด้านข้าง เป็นลักษณะผิวด้าน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีที่ทาง Huawei เรียกว่า “hyper diamond cut” จะมีเฉพาะตัวเครื่องที่เป็นสีฟ้า (Dazzling Blue) และสีทอง (Dazzling Gold) เท่านั้น การออกแบบ Huawei P10 มุมที่ 4 ด้านมีลักษณะโค้งมน ด้านหลังให้ความรู้สึกเรียบง่าย แฝงความพรีเมี่ยมอยู่ในตัว มีการปรับตำแหน่งของเส้นรับสัญญาณไม่ให้พาดอยู่บริเวณด้านหลัง พร้อมกับโละปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านหลังออกไปด้วย บริเวณกล้องหลังเลนส์คู่ Leica ตัวเลนส์จะไม่ยื่นออกมา เนื่องถูกครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass ช่วยปกป้องเลนส์จากรอยขีดข่วนต่างๆ
ที่มา http://www.itcity.co.th/index.php/component/k2/item/478-huawei-p10

Fitbit Alta HR ทำไมคนรุ่นใหม่ต้องใช้ ?

Fitbit Alta HR สายรัดข้อมือฟิตเนสหรือ Fitness tracker ที่พัฒนาต่อจาก Fitbit Alta รุ่นก่อน โดยตัวนี้ ได้พัฒนาเซ็นเซอร์ ตรวจจับการนอนโดยเฉพาะ ด้วยฟังก์ชั่นใหม่อย่าง​ Sleep Stages และ​ Sleep Insights 
ระบบติดตามการนอนอัตโนมัติ​ ตั้งแต่เริ่ม​หลับจนถึงหลับลึก สามารถบันทึกข้อมูลการหลับได้ลึกขึ้น​

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ลือ iPhone 8 มีระบบเลเซอร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ “ออโต้โฟกัส” และ “AR”

Fast Company รายงานว่า Apple กำลังพัฒนาระบบ VCSEL (vertical-cavity surface-emitting laser) สำหรับกล้องหลังของ iPhone 8 ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการตรวจวัดความลึกของภาพสำหรับแอป AR ได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มความเร็วในการออโต้โฟกัสสำหรับการถ่ายภาพได้มากขึ้นกว่าเดิม
ระบบดังกล่าวจะตรวจวัดระยะทางที่เลเซอร์เดินทางถึงเป้าหมายและสะท้อนกลับมายังเซ็นเซอร์ หรือที่เรียกว่า Time of Flight (TOF) ซึ่งประกอบไปด้วยเลเซอร์ VCSEL, เลนส์, ตัวจับ (เซ็นเซอร์) และหน่วยประมวลผล โดยมีต้นทุนอยู่ที่ 2 เหรียญต่อสมาร์ทโฟน 1 เครื่อง
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือเกี่ยวกับเทคโนโลยีกล้อง 3 มิติ แบบใหม่ และการดีไซน์กล้องหลังแนวตั้ง ซึ่งทำให้เชื่อได้ว่า Apple กำลังพัฒนาฮาร์ดแวร์เพื่อรองรับการทำงานร่วกับแอป AR อย่าง ARKit ใน iOS 11และอาจมีเซ็นเซอร์ 3 มิติ ที่กล้องหน้า สำหรับตรวจจับใบหน้าด้วย